เปรียบเทียบราคากล้องวงจรปิด POE กับระบบอื่น ติดตั้งครั้งเดียว คุ้มค่าระยะยาว
เปรียบเทียบราคากล้องวงจรปิด POE กับระบบอื่น ติดตั้งครั้งเดียว คุ้มค่าระยะยาว
ในยุคที่กล้องวงจรปิดกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดูแลความปลอดภัยของบ้าน ร้านค้า ไปจนถึงโรงงานหรือโกดัง หลายคนอาจลังเลใจเมื่อต้องเลือกว่าจะใช้ ระบบกล้องแบบ POE, กล้องแบบไร้สาย (Wireless Wi-Fi) หรือ กล้องระบบ Analog เพราะนอกจากประสิทธิภาพแล้ว “เรื่องของราคา” ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กัน
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกเปรียบเทียบทั้งในแง่ของ ค่าอุปกรณ์, ค่าติดตั้ง, ค่าเดินสาย, และ ต้นทุนระยะยาว เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่า กล้องวงจรปิด POE นั้น “คุ้มค่าจริงหรือไม่” เมื่อเทียบกับระบบอื่น
ระบบกล้องวงจรปิด POE คืออะไร?
ก่อนจะเริ่มเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย เราต้องเข้าใจว่า POE (Power over Ethernet) คือระบบที่สามารถส่ง “ไฟฟ้า” และ “สัญญาณภาพ” ไปพร้อมกันผ่านสาย LAN เส้นเดียว ทำให้ไม่ต้องมีแหล่งจ่ายไฟแยกในแต่ละจุด เหมาะอย่างยิ่งกับงานที่ต้องการความเป็นระเบียบ ความเสถียร และขยายระบบในอนาคตได้ง่าย
-
เปรียบเทียบค่าอุปกรณ์เบื้องต้น
ประเภทระบบ | ราคาต่อกล้อง (โดยประมาณ) | อุปกรณ์เพิ่มเติม |
POE | 1,500 – 3,500 บาท | Switch POE, NVR |
Wireless Wi-Fi | 1,000 – 2,500 บาท | เราเตอร์ / Access Point |
Analog | 800 – 2,000 บาท | DVR, Adapter, BNC + สายไฟแยก |
เมื่อดูจากตัวกล้องอย่างเดียว Analog และ Wi-Fi ดูเหมือนถูกกว่าเล็กน้อย แต่ระบบ POE มักมากับคุณสมบัติเพิ่ม เช่น ภาพความคมชัดระดับ Full HD/4K, มุมมองกว้าง, และ อินฟราเรดระยะไกลกว่า
-
ค่าติดตั้งและค่าเดินสาย
- ระบบ POE: ใช้สาย LAN เส้นเดียวต่อกล้อง ช่างติดตั้งง่าย สะอาด ไม่ต้องเจาะผนังหลายจุด มีค่าแรงเฉลี่ย 400–700 บาท/จุด
- ระบบ Analog: ต้องเดินสาย 2 เส้น (ภาพ + ไฟ) อาจใช้เวลานานกว่า ค่าแรงเฉลี่ย 500–900 บาท/จุด
- Wireless Wi-Fi: ไม่ต้องเดินสายภาพ แต่ต้องมีปลั๊กไฟใกล้กล้อง ค่าแรงอาจต่ำกว่า (300–600 บาท/จุด) แต่ต้องจัดการจุดไฟฟ้าเอง
POE ช่วยลดความซับซ้อนของระบบไฟ เพราะไม่ต้องมีปลั๊กหรือ Adapter เพิ่มในทุกจุดติดตั้ง
-
ต้นทุนในการดูแลและซ่อมบำรุง
- POE: โครงสร้างสาย LAN เดียว ช่วยลดจุดเสียหาย เมื่อมีปัญหาก็แก้ไขได้เร็วจากศูนย์กลาง เช่น NVR หรือ Switch POE
- Analog: มีสายหลายเส้น จุดเสียบ BNC/Adapter มีโอกาสหลวม เสียบ่อย และใช้เวลาไล่สายมาก
- Wi-Fi: มีปัญหากับสัญญาณหลุด หากติดตั้งห่างจากเราเตอร์มาก และต้องคอยเปลี่ยนจุดวาง Access Point หรืออัปเดตระบบบ่อย
ผลลัพธ์คือ ระบบ POE ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพราะลดค่าเปลี่ยนอุปกรณ์และแรงงานในการซ่อมแซมจุดเล็กน้อย
-
ความคุ้มค่าทางการเงินในระยะยาว
ประเภทระบบ | ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น (ติดตั้ง 4 จุด) | ค่าดูแลรักษา (5 ปี) | ความเสถียรและขยายระบบ |
POE | 12,000 – 18,000 บาท | ต่ำ (1,000 – 3,000) | สูง รองรับเพิ่มกล้องง่าย |
Wi-Fi | 10,000 – 14,000 บาท | ปานกลาง (3,000 – 5,000) | ปานกลาง – ต้องเพิ่มอุปกรณ์เน็ต |
Analog | 9,000 – 13,000 บาท | สูง (4,000 – 8,000) | ต่ำ – เดินสายเพิ่มยุ่งยาก |
POE อาจมีค่าเริ่มต้นสูงกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อรวมค่าบำรุงรักษาและความสามารถในการขยายระบบแล้ว ถือว่า “ประหยัดกว่า” อย่างเห็นได้ชัด
-
ลดจุดเสี่ยง ลดความยุ่งยากในระยะยาว
ระบบที่มีปลั๊กไฟหลายจุด หรืออุปกรณ์แยกหลายชิ้น เช่น Adapter, BNC, สายไฟ-สัญญาณแยก อาจเป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหรือจุดที่เกิดปัญหาได้บ่อย เช่น
– ไฟกระชากทำให้อะแดปเตอร์เสีย
– ปลั๊กหลุดจากฝุ่น ความชื้น หรือสัตว์เลี้ยง
– ตำแหน่งกล้องเปลี่ยนเมื่อมีการเคลื่อนอุปกรณ์ในพื้นที่
กล้อง POE ตัดปัญหาเหล่านี้ทั้งหมด ด้วยการรวมพลังงานและสัญญาณไว้ในสายเดียว ทำให้ระบบเรียบง่าย เสถียร และดูแลต่อเนื่องได้ง่ายขึ้น
สรุป: ลงทุนครั้งเดียว คุ้มค่านานหลายปี
หากคุณกำลังมองหาระบบกล้องวงจรปิดที่ “ติดตั้งแล้วจบ ดูแลง่าย ไม่ปวดหัวภายหลัง” — ระบบ POE คือคำตอบที่ใช่
แม้อาจมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสูงกว่าเล็กน้อย แต่ด้วยความเสถียร ความสะดวกในการขยาย และการบำรุงรักษาต่ำ ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและประหยัดกว่าในระยะยาว